พ.ศ. 2485
22 มกราคม บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย โดยการนำของเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ภายใต้สัญลักษณ์ปราสาทอันสูงสง่า เพื่อมุ่งดำเนินธุรกิจประกันชีวิต และสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตให้แก่ครอบครัวไทย
พ.ศ. 2513
ปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารครั้งสำคัญ โดยนายวานิช ไชยวรรณ และนายอนิวรรต์ กฤตยากีรณ ได้ร่วมกันรับผิดชอบการบริหารงานพร้อมทั้งวางแผนพัฒนาระบบงานเน้นการบริการที่รวดเร็ว ออกแบบกรมธรรม์ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ และคนไทย ยกระดับมาตรฐานคุณภาพตัวแทนฝ่ายขาย และเปลี่ยนสัญลักษณ์จากองค์ปราสาทเป็นช้างเอราวัณ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่หัวมุมถนนราชดำเนิน
พ.ศ. 2515
ย้ายสถานที่ตั้งบริษัทฯ มาเช่าอยู่ที่ตึกอื้อจือเหลียง มีพนักงานประมาณ 40 คน พร้อมกับได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานเป็นแห่งแรกของธุรกิจประกันชีวิต
พ.ศ. 2526
ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ประยูร จินดาประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสืบแทน นายอนิวรรตน์ กฤตยากีรณ ซึ่งลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ และเป็นปีที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ จนประสบความสำเร็จ ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของบริษัทประกันชีวิตคนไทย ด้วยจำนวนเบี้ยประกัน รวมสูงสุด 1,339 ล้านบาท
พ.ศ. 2527
ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานให้ทันสมัย โดยแบ่งเป็นฝ่ายประกันชีวิต ฝ่ายการเงินและบริหาร ฝ่ายการตลาด และกลุ่มหน่วยงานกลาง ทั้งยังได้ริเริ่มให้มีการชำระเบี้ยประกันผ่านธนาคารพาณิชย์เป็น แห่งแรก เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเบี้ยประกันแก่ผู้เอาประกัน รวมทั้งได้ดัดแปลงสัญลักษณ์บริษัทฯ จากรูปช้างเอราวัณ เป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่เรียบง่ายทันสมัย ด้วยลายเส้นที่มั่นคงเสมือนบุคคล ยืนหยัดอย่างมั่นใจ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างหลักประกัน และความผาสุกแก่ครอบครัวชาวไทย
พ.ศ. 2529
นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งยังเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ที่ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์แบบออนไลน์มาใช้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ผู้เอาประกันได้รับ การบริการที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดให้มีเครื่องแบบพนักงานขึ้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะท้อนถึงเอกลักษณ์ และความเป็นหนึ่งเดียวกัน
พ.ศ. 2532
อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ 24 ชั้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท บนถนนรัชดาภิเษก ได้เปิดดำเนินการ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน และมอบการบริการแก่ผู้เอาประกันได้อย่างทั่วถึงสมบูรณ์แบบ พร้อมกับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 กับรางวัลบริษัทดีเด่นแห่งปี ประเภทธุรกิจประกันชีวิตประจำปี 2532 รวมถึงความสำเร็จที่มีผู้เอาประกันชีวิตเกิน 1,000,000 ราย เป็นปีแรก
พ.ศ. 2533
บุคลากรสำนักงานใหญ่ และสาขาขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนกว่า 2,300 คน บุคลากรฝ่ายขายกว่า 50,000 คน มีสาขาพร้อมให้บริการ 287 สาขา และจำนวนผู้เอาประกันเพิ่มขึ้นเป็น 1,900,000 ราย มีอัตราเติบโตสูงถึง 38 %
พ.ศ. 2534
ขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 290 สาขา และพัฒนาระบบออนไลน์คอมพิวเตอร์ไปยังสาขาขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาค เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริการ และการปฏิบัติงานมากขึ้น
พ.ศ. 2535
ปีที่บริษัทฯ ดำเนินงานครบ 50 ปี และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บริษัทฯ พนักงาน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป บริษัทฯ จึงได้จัดสร้างพระพุทธรูปบูชา และเหรียญพระไพรีพินาศ “ญสส.” จำนวน 84,000 องค์ โดยได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก และเททองหล่อพระพุทธรูปบูชาพระไพรีพินาศ
พ.ศ. 2539
วางเครือข่าย Thai Life Intranet ผ่านวงจรเช่าพิเศษ (Leased line) เชื่อมโยงระหว่างสำนักงานใหญ่ และสาขา เพื่อให้การส่งผ่านข้อมูลจากสาขามายังสำนักงานใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดทำโปรแกรม Software Multimedia ชื่อ Thai Life Always Ahead บรรจุลงในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพื่อให้ตัวแทนฝ่ายขายใช้เป็นสื่อในการขยายตลาด และเข้าหาลูกค้า
พ.ศ. 2540
จัดทำ Thai Life Homepage ทั้งภาคภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เผยแพร่ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้ Website ชื่อ www.thailife.com เพื่อเผยแพร่ประวัติบริษัทฯ การดำเนินงาน และข่าวสารอื่นๆ พร้อมกันนี้ได้จัดทำระบบ IVR (Interactive Voice Response) เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลสินไหมทางโทรศัพท์แก่ฝ่ายขาย
พ.ศ. 2541
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระครุฑพ่าห์ ให้เป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มั่นคงทางการเงิน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
พ.ศ. 2542
เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ริเริ่มการบริการ “ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์” ที่สุดแห่งการบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ด้วยการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ และการเดินทางฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก ทุกกรมธรรม์แก่ผู้เอาประกันที่ถือกรมธรรม์รายบุคคลทุกราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
พ.ศ. 2548
ริเริ่ม “ไทยประกันชีวิตอีซี่เพย์” ซึ่งเป็นบริการการชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางต่างๆ กว่า 10 ช่องทาง
พ.ศ. 2549
สร้างสรรค์การบริการ “ไทยประกันชีวิต Check up” เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วแก่ลูกค้าให้ได้รับการตรวจสุขภาพจากสถานพยาบาลชั้นนำที่มีมาตรฐานสูง พร้อมรับสิทธิ์บริการตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ
พ.ศ. 2551
เพิ่มทางเลือกในการออมที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามให้กับชาวไทยมุสลิม ด้วยสัญญา “ตะกาฟุล” พร้อมกับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่เปิดเครือข่ายศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์แก่ผู้เอาประกัน (Center Network) ณ สาขา 254 แห่งทั่วประเทศ
พ.ศ. 2553
ริเริ่มบริการ iService เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ของตนเองผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com นอกจากนี้ยังตั้งศูนย์บริการข้อมูลตัวแทน (Agent Call Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการข้อมูลต่างๆแก่ฝ่ายขายเปิดสาขา พาราไดช์ พาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์บริการลูกค้า หรือ Customer Service Center แห่งแรกภายในศูนย์การค้า เพื่อให้บริการด้านธุรกรรมต่างๆแก่ผู้เอาประกัน โดยได้มีการจัดเตรียมเครื่องดื่มและอินเทอร์เน็ตไว้ให้บริการฟรี ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน ๓๐๙ แห่ง
เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่คุ้มครองชีวิตบุตรตั้งแต่แรกเกิดด้วยการออกแบบประกัน "ก้าวแรก"
พ.ศ. 2554
ไทยประกันชีวิตประกาศความเป็นผู้นำนวัตกรรม ด้วยการเปิดตัวแบบประกัน "ประกันอุบัติเหตุไม่เคลมมีคืน" (P.A. Refund) นับเป็นครั้งแรกในวงการประกันชีวิต ที่มีการคืนเบี้ยประกันเมื่อไม่มีการเคลม
พ.ศ. 2555
แปรสภาพบริษัท จาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็น บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และเป็นปีที่ครบรอบ 70 ปีของการดำเนินธุรกิจประกาศความเป็นผู้นำนวัตกรรมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแบบประกัน "ไม่มะเร็งมีคืน" เป็นครั้งแรกในวงการประกันชีวิต
พ.ศ. 2556
ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยผลิตภัณฑ์แบบประกัน “มีคืน” ไม่ว่าจะเป็น ประกัน “ไม่เคลม มีคืน” ประกันอุบัติเหตุที่คืนเบี้ยประกันปีสุดท้าย,“ไม่มะเร็ง มีคืน” แบบประกันที่จะมอบความคุ้มครอง ๑ ล้านบาท กรณีที่ตรวจพบเป็นมะเร็ง “ไม่ค้าง มีคืน”แผนประกันชีวิตที่คืนเบี้ยปีสุดท้ายหากไม่มีการเรียกร้องสินไหมค่ารักษาพยาบาลรายวัน “ไม่มีโรค มีคืน” แบบประกันที่พร้อมคืนเบี้ยประกันปีสุดท้ายหากไม่มีการเรียกร้องสินไหมโรคร้ายแรง
จัดทำแอพพลิเคชั่นในรูปแบบ E-book เพื่อเผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากผู้เอาประกันหรือคนทั่วไปจะได้รับข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วแล้ว Application นี้ ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเอื้อต่อการขยายตลาดของฝ่ายขายได้อีกด้วย
พ.ศ. 2560
ดำเนินธุรกิจครบ 75 ปี เป็นบริษัทประกันชีวิตที่เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยความมุ่งมั่นของบุคลากร ทั้งสำนักงานใหญ่ สาขา และฝ่ายขาย ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิด เคียงข้างทุกครอบครัวไทยบนพื้นฐานทักษะความรู้ คุณธรรม และ จริยธรรมอันดี
พ.ศ. 2562
ขยายการดำเนินธุรกิจไปยังประเทศในภูมิภาค AEC ผ่านการเข้าร่วมทุนในบริษัท CB Life Insurance จำกัด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในสัดส่วน 35% ซึ่งไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตอาเซียนแห่งแรกที่ขยายสู่ตลาดเมียนมา ในลักษณะการเข้าถือหุ้นบริษัทประกันชีวิตท้องถิ่น
พ.ศ. 2563
พัฒนา TLI APPLICATION เพื่อขยายบริการด้านธุรกรรมประกันชีวิต ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ พร้อมรายละเอียดความคุ้มครองได้ทุกที่ทุกเวลา และอีกหลากหลายการใช้งานที่พร้อมตอบทุกความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ
2485 - 2515
22 มกราคม บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด
ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย
พ.ศ. 2485
22 มกราคม บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย โดยการนำของเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ภายใต้สัญลักษณ์ปราสาทอันสูงสง่า เพื่อมุ่งดำเนินธุรกิจประกันชีวิต และสร้างหลักประกันที่มั่นคงในชีวิตให้แก่ครอบครัวไทย
พ.ศ. 2513
ปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารครั้งสำคัญ โดยนายวานิช ไชยวรรณ และนายอนิวรรต์ กฤตยากีรณ ได้ร่วมกันรับผิดชอบการบริหารงานพร้อมทั้งวางแผนพัฒนาระบบงานเน้นการบริการที่รวดเร็ว ออกแบบกรมธรรม์ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ และคนไทย ยกระดับมาตรฐานคุณภาพตัวแทนฝ่ายขาย และเปลี่ยนสัญลักษณ์จากองค์ปราสาทเป็นช้างเอราวัณ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่หัวมุมถนนราชดำเนิน
พ.ศ. 2515
ย้ายสถานที่ตั้งบริษัทฯ มาเช่าอยู่ที่ตึกอื้อจือเหลียง มีพนักงานประมาณ 40 คน พร้อมกับได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานเป็นแห่งแรกของธุรกิจประกันชีวิต
2526 - 2529
ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของบริษัทประกันชีวิตคนไทย
พ.ศ. 2526
ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.ประยูร จินดาประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสืบแทน นายอนิวรรตน์ กฤตยากีรณ ซึ่งลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ และเป็นปีที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ จนประสบความสำเร็จ ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ของบริษัทประกันชีวิตคนไทย ด้วยจำนวนเบี้ยประกัน รวมสูงสุด 1,339 ล้านบาท
พ.ศ. 2527
ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานให้ทันสมัย โดยแบ่งเป็นฝ่ายประกันชีวิต ฝ่ายการเงินและบริหาร ฝ่ายการตลาด และกลุ่มหน่วยงานกลาง ทั้งยังได้ริเริ่มให้มีการชำระเบี้ยประกันผ่านธนาคารพาณิชย์เป็น แห่งแรก เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเบี้ยประกันแก่ผู้เอาประกัน รวมทั้งได้ดัดแปลงสัญลักษณ์บริษัทฯ จากรูปช้างเอราวัณ เป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่เรียบง่ายทันสมัย ด้วยลายเส้นที่มั่นคงเสมือนบุคคล ยืนหยัดอย่างมั่นใจ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างหลักประกัน และความผาสุกแก่ครอบครัวชาวไทย
พ.ศ. 2529
นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทั้งยังเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรก ที่ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์แบบออนไลน์มาใช้กับสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ผู้เอาประกันได้รับ การบริการที่สะดวก รวดเร็ว และกำหนดให้มีเครื่องแบบพนักงานขึ้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะท้อนถึงเอกลักษณ์ และความเป็นหนึ่งเดียวกัน
2532 - 2534
อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ 24 ชั้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท บนถนนรัชดาภิเษก
พ.ศ. 2532
อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ 24 ชั้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท บนถนนรัชดาภิเษก ได้เปิดดำเนินการ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน และมอบการบริการแก่ผู้เอาประกันได้อย่างทั่วถึงสมบูรณ์แบบ พร้อมกับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 กับรางวัลบริษัทดีเด่นแห่งปี ประเภทธุรกิจประกันชีวิตประจำปี 2532 รวมถึงความสำเร็จที่มีผู้เอาประกันชีวิตเกิน 1,000,000 ราย เป็นปีแรก
พ.ศ. 2533
บุคลากรสำนักงานใหญ่ และสาขาขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนกว่า 2,300 คน บุคลากรฝ่ายขายกว่า 50,000 คน มีสาขาพร้อมให้บริการ 287 สาขา และจำนวนผู้เอาประกันเพิ่มขึ้นเป็น 1,900,000 ราย มีอัตราเติบโตสูงถึง 38 %
พ.ศ. 2534
ขยายสาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 290 สาขา และพัฒนาระบบออนไลน์คอมพิวเตอร์ไปยังสาขาขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาค เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบริการ และการปฏิบัติงานมากขึ้น
2535 - 2540
พ.ศ. 2535 ปีที่บริษัทฯ ดำเนินงานครบ 50 ปี และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บริษัทฯ พนักงาน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
พ.ศ. 2535
ปีที่บริษัทฯ ดำเนินงานครบ 50 ปี และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บริษัทฯ พนักงาน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป บริษัทฯ จึงได้จัดสร้างพระพุทธรูปบูชา และเหรียญพระไพรีพินาศ “ญสส.” จำนวน 84,000 องค์ โดยได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีพุทธาภิเษก และเททองหล่อพระพุทธรูปบูชาพระไพรีพินาศ
พ.ศ. 2539
วางเครือข่าย Thai Life Intranet ผ่านวงจรเช่าพิเศษ (Leased line) เชื่อมโยงระหว่างสำนักงานใหญ่ และสาขา เพื่อให้การส่งผ่านข้อมูลจากสาขามายังสำนักงานใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดทำโปรแกรม Software Multimedia ชื่อ Thai Life Always Ahead บรรจุลงในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพื่อให้ตัวแทนฝ่ายขายใช้เป็นสื่อในการขยายตลาด และเข้าหาลูกค้า
พ.ศ. 2540
จัดทำ Thai Life Homepage ทั้งภาคภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เผยแพร่ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้ Website ชื่อ www.thailife.com เพื่อเผยแพร่ประวัติบริษัทฯ การดำเนินงาน และข่าวสารอื่นๆ พร้อมกันนี้ได้จัดทำระบบ IVR (Interactive Voice Response) เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลสินไหมทางโทรศัพท์แก่ฝ่ายขาย
2541 - 2548
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระครุฑพ่าห์ ให้เป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พ.ศ. 2541
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระครุฑพ่าห์ ให้เป็นบริษัทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มั่นคงทางการเงิน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
พ.ศ. 2542
เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ริเริ่มการบริการ “ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์” ที่สุดแห่งการบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ด้วยการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ และการเดินทางฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก ทุกกรมธรรม์แก่ผู้เอาประกันที่ถือกรมธรรม์รายบุคคลทุกราย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
พ.ศ. 2548
ริเริ่ม “ไทยประกันชีวิตอีซี่เพย์” ซึ่งเป็นบริการการชำระเบี้ยประกันผ่านช่องทางต่างๆ กว่า 10 ช่องทาง
2549 - 2551
สร้างสรรค์การบริการ “ไทยประกันชีวิต Check up” เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วแก่ลูกค้า
พ.ศ. 2549
สร้างสรรค์การบริการ “ไทยประกันชีวิต Check up” เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วแก่ลูกค้าให้ได้รับการตรวจสุขภาพจากสถานพยาบาลชั้นนำที่มีมาตรฐานสูง พร้อมรับสิทธิ์บริการตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ
พ.ศ. 2551
เพิ่มทางเลือกในการออมที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามให้กับชาวไทยมุสลิม ด้วยสัญญา “ตะกาฟุล” พร้อมกับเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่เปิดเครือข่ายศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์แก่ผู้เอาประกัน (Center Network) ณ สาขา 254 แห่งทั่วประเทศ
2553
ริเริ่มบริการ iService เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ของตนเองผ่านเว็บไซต์
พ.ศ. 2553
ริเริ่มบริการ iService เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ของตนเองผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com นอกจากนี้ยังตั้งศูนย์บริการข้อมูลตัวแทน (Agent Call Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการข้อมูลต่างๆแก่ฝ่ายขายเปิดสาขา พาราไดช์ พาร์ค ซึ่งเป็นศูนย์บริการลูกค้า หรือ Customer Service Center แห่งแรกภายในศูนย์การค้า เพื่อให้บริการด้านธุรกรรมต่างๆแก่ผู้เอาประกัน โดยได้มีการจัดเตรียมเครื่องดื่มและอินเทอร์เน็ตไว้ให้บริการฟรี ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน ๓๐๙ แห่ง
เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่คุ้มครองชีวิตบุตรตั้งแต่แรกเกิดด้วยการออกแบบประกัน "ก้าวแรก"
2554 - 2555
เปิดตัวแบบประกัน "ประกันอุบัติเหตุไม่เคลมมีคืน" (P.A. Refund) นับเป็นครั้งแรกในวงการประกันชีวิต
พ.ศ. 2554
ไทยประกันชีวิตประกาศความเป็นผู้นำนวัตกรรม ด้วยการเปิดตัวแบบประกัน "ประกันอุบัติเหตุไม่เคลมมีคืน" (P.A. Refund) นับเป็นครั้งแรกในวงการประกันชีวิต ที่มีการคืนเบี้ยประกันเมื่อไม่มีการเคลม
พ.ศ. 2555
แปรสภาพบริษัท จาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็น บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และเป็นปีที่ครบรอบ 70 ปีของการดำเนินธุรกิจประกาศความเป็นผู้นำนวัตกรรมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวแบบประกัน "ไม่มะเร็งมีคืน" เป็นครั้งแรกในวงการประกันชีวิต
2556
ผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยผลิตภัณฑ์แบบประกัน “มีคืน” ไม่ว่าจะเป็น ประกัน “ไม่เคลม มีคืน”
พ.ศ. 2556
ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมด้วยผลิตภัณฑ์แบบประกัน “มีคืน” ไม่ว่าจะเป็น ประกัน “ไม่เคลม มีคืน” ประกันอุบัติเหตุที่คืนเบี้ยประกันปีสุดท้าย,“ไม่มะเร็ง มีคืน” แบบประกันที่จะมอบความคุ้มครอง ๑ ล้านบาท กรณีที่ตรวจพบเป็นมะเร็ง “ไม่ค้าง มีคืน”แผนประกันชีวิตที่คืนเบี้ยปีสุดท้ายหากไม่มีการเรียกร้องสินไหมค่ารักษาพยาบาลรายวัน “ไม่มีโรค มีคืน” แบบประกันที่พร้อมคืนเบี้ยประกันปีสุดท้ายหากไม่มีการเรียกร้องสินไหมโรคร้ายแรง
จัดทำแอพพลิเคชั่นในรูปแบบ E-book เพื่อเผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ของบริษัทฯ ซึ่งนอกจากผู้เอาประกันหรือคนทั่วไปจะได้รับข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วแล้ว Application นี้ ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเอื้อต่อการขยายตลาดของฝ่ายขายได้อีกด้วย
2557 - ปัจจุบัน
ดำเนินธุรกิจครบ 80 ปี ประกาศวิสัยทัศน์ มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน
พ.ศ. 2560
ดำเนินธุรกิจครบ 75 ปี เป็นบริษัทประกันชีวิตที่เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยความมุ่งมั่นของบุคลากร ทั้งสำนักงานใหญ่ สาขา และฝ่ายขาย ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิด เคียงข้างทุกครอบครัวไทยบนพื้นฐานทักษะความรู้ คุณธรรม และ จริยธรรมอันดี
พ.ศ. 2562
ขยายการดำเนินธุรกิจไปยังประเทศในภูมิภาค AEC ผ่านการเข้าร่วมทุนในบริษัท CB Life Insurance จำกัด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในสัดส่วน 35% ซึ่งไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตอาเซียนแห่งแรกที่ขยายสู่ตลาดเมียนมา ในลักษณะการเข้าถือหุ้นบริษัทประกันชีวิตท้องถิ่น
พ.ศ. 2563
พัฒนา TLI APPLICATION เพื่อขยายบริการด้านธุรกรรมประกันชีวิต ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ พร้อมรายละเอียดความคุ้มครองได้ทุกที่ทุกเวลา และอีกหลากหลายการใช้งานที่พร้อมตอบทุกความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ